ความงามเป็นสิ่งที่มนุษย์โหยหาและใฝ่ฝันมาเนิ่นนาน แต่ละยุคสมัยต่างมีมาตรฐานความงามที่แตกต่างกันไป สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมและความเชื่อของสังคมในช่วงเวลานั้นๆ ในอดีต ความงามมักถูกผูกติดกับรูปลักษณ์ภายนอก ผู้หญิงที่ถูกมองว่าสวยจะต้องมีผิวขาว ผอมเพรียว หน้าเรียว จมูกโด่ง ตาโต ปากบาง สิ่งเหล่านี้ถูกกำหนดขึ้นโดยสื่อ วัฒนธรรม และค่านิยมในสังคม ผู้หญิงที่ไม่ตรงกับมาตรฐานเหล่านี้มักถูกกีดกันหรือถูกมองว่าด้อยค่า
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ในสมัยโบราณ ผู้หญิงไทยถูกนิยมให้มีรูปร่างอวบอ้วน ผิวขาว หน้ากลม คิ้วโก่ง ปากจู๋ สะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์และฐานะทางสังคม ผู้หญิงที่มีรูปร่างผอมหรือผิวคล้ำจะถูกมองว่าไม่สวย
อย่างไรก็ตาม โลกกำลังเปลี่ยนแปลง มุมมองต่อความงามก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญกับความงามภายในมากขึ้น นิยามของคำว่า "สวย" เริ่มมีความหลากหลาย ผู้หญิงทุกคนมีความงามในแบบของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับมาตรฐานที่ตายตัว
ปัจจุบัน ผู้หญิงมีอิสระมากขึ้นในการแสดงออกถึงความงามในแบบของตัวเอง ผู้หญิงสามารถแต่งหน้า แต่งตัว เลือกทรงผม โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกมองว่าผิดหรือแปลก สื่อต่างๆ เริ่มนำเสนอผู้หญิงที่มีความหลากหลายมากขึ้น ผู้หญิงที่มีรูปร่าง สีผิว เชื้อชาติ และภูมิหลังที่แตกต่างกัน ล้วนได้รับการยกย่องว่าสวยในแบบของตัวเอง
ตัวอย่างเช่น นางแบบพลัสไซส์เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่มีรูปร่างอวบอ้วนก็สวยได้เช่นกัน ผู้หญิงที่มีผิวสีก็เริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องมีผิวขาวถึงจะสวย
ความงามไม่ได้จำกัดอยู่แค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความงามภายใน ผู้หญิงที่สวยจากภายในจะมีความมั่นใจ ฉลาด ใจดี มีเมตตา และมีความสามารถ ผู้หญิงเหล่านี้เปล่งประกายความงามออกมาจากภายใน สร้างความดึงดูดใจให้กับผู้คนรอบข้าง
ผู้หญิงที่สวยจากภายในนั้น เปรียบเสมือนเพชรที่เจียระไน ถึงแม้จะไม่ได้เปล่งประกายแวววาวเหมือนเพชรแท้ แต่มีคุณค่าและน่าค้นหา ผู้หญิงเหล่านี้มักมีเสน่ห์ดึงดูดใจผู้คนรอบข้าง
ความงามเป็นสิ่งที่ ขึ้นอยู่กับมุมมองและรสนิยมของแต่ละบุคคล สิ่งสำคัญคือผู้หญิงทุกคนต้องรักและภูมิใจในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น ผู้หญิงทุกคนสวยในแบบของตัวเอง
ผู้หญิงทุกคนล้วนมีความงามที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญคือเราต้องค้นหาความงามในแบบของตัวเอง และรักในสิ่งที่เราเป็น
By Sabuycontent ขายบทความ 6บาท/1บทความ